Knowledge

ซ่อมสีประกันชั้น 1 ทำไมต้องจ่ายเพิ่ม?

ซ่อมสีประกันชั้น 1 ทำไมต้องจ่ายเพิ่ม?  เข้าสู่ช่วงกลางเดือนมกราคม ได้เวลาที่รถคันที่ผมใช้อยู่ประจำที่จะต้องต่ออายุประกันออกไป ซึ่งก่อนจะต่อประกันหรือบางคนอาจจะเปลี่ยนประกันเจ้าใหม่ ผมเชื่อว่าเจ้าของส่วนใหญ่ก็จะต้องมีการเคลมประกัน ร่องรอยการชนหรือถูกชน รวมถึงแผลต่าง ๆ รอบคันกัน โดยเฉพาะรถที่ทำประกันชั้น 1

     ที่ผ่านมาผมเองยอมรับว่าไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเก็บสี หรือริ้วรอยเล็ก ๆ น้อย ๆ มากนัก จะซ่อมทีก็ต้องเป็นรอยที่ค่อนข้างรุนแรงไม่สามารถปล่อยผ่านได้ ทำให้ในบางปี หากรถไม่มีแผลใหญ่ ผมก็มักจะปล่อยผ่าน ไม่ค่อยได้เก็บสีรอบคันสักเท่าไหร่ หรือบางปีก็มีการออกใบเคลมไว้แล้ว แต่เลยเวลานำรถเข้าซ่อมก็มีเหมือนกัน

     ทุกครั้งที่ผมนำรถเข้าซ่อมสีก่อนหน้านี้ ส่วนใหญ่จะมีคู่กรณีที่ระบุได้ ส่วนริ้วรอยต่าง ๆ ที่ไม่มีคู่กรณี ก็สามารถระบุที่มาที่ไปได้ รวมถึงซ้อมทีก็ไม่เกิน 3-4 จุด และไม่เคยต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแม้แต่ครั้งเดียวครับ แต่ก็พอรู้มาบ้างจากคนรอบข้างที่ใช้ประกันชั้น 1 เหมือนกัน ว่าอาจต้องมีจ่ายเงินเพิ่มในบางกรณี

     มาในปีนี้เป็นครั้งแรกที่ผมนำรถเข้าไปซ่อมสีแล้วมีการเรียกเก็บเงินเพิ่มเติมจุดละ 1,000 บาท ซึ่งค่าใช้จ่ายที่ว่านี้ หลายคนเข้าใจผิดหรือฟังกันมาผิด ๆ ว่าเป็นค่า accept ที่แปลว่ายอมรับในเคสที่ไม่มีคู่กรณี แต่คำที่ถูกต้องที่บริษัทประกันใช้ คือคำว่า ค่า excess ที่แปลว่าส่วนเกินครับ

     ไอ้เจ้า ค่า excess นี้ มีระบุชัดเจนอยู่ในเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ซึ่งเจ้าของรถส่วนใหญ่รวมถึงผมด้วยไม่เคยอ่าน! มันคือค่าความเสียหายส่วนแรกที่เกิดจากความประมาทจากการขับขี่โดยไม่มีคู่กรณี ซึ่งในทางประกันเขาถือว่าเป็นความไม่ระมัดระวังในการใช้งานครับ

ซ่อมสีประกันชั้น 1

มาถึงตรงนี้ผมเลยสงสัยว่า อ้าว! แล้วที่ผ่านมาผมก็เคยนำรถเข้าซ่อมสี แต่ทำไมถึงไม่เคยต้องเสียค่า excess เลย? ผมเลยสอบถามไปยังผู้รู้ด้านประกันภัย ซึ่งคำตอบที่ได้คือ เงื่อนไขที่ว่านี้มันมีแยกย่อยลงไปอีกครับ เพราะในบางเคสที่เราไม่มีคู่กรณีที่สามารถระบุตัวตนได้ แล้วไม่ต้องเสียค่า excess ก็มีเหมือนกัน

     อธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ คือ หากเป็นความเสียหายหนัก อาทิ ชนเสาไฟ ชนประตู ไปจนถึงรถคว่ำ รวมถึงริ้วรอยที่ทำให้ตัวถังรถบุบหรือยุบเข้าไป เคสแบบนี้ไม่มีคู่กรณีก็จริงครับ แต่ดูแล้วคงไม่มีใครคิดพิเรนทร์ ทำให้รถตัวเองเสียหายถึงขั้นนี้เพื่อเอาประกันแน่นอน แบบนี้ก็ไม่ต้องเสียค่า excess แต่อย่างใด

     แต่หากเป็นกรณีรอยขูดขีด ไม่เข้าเนื้อสี ไม่มีส่วนไหนของตัวรถบุบ ยกตัวอย่าง กันชนเป็นรอยแล้วแจ้งเคลมเปลี่ยนกันชนยกแผง แบบนี้เงื่อนไขระบุว่าบริษัทประกัน แม้จะเป็นการทำประกันชั้น 1 สามารถเรียกเก็บค่า excess ในส่วนนี้ได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ที่จุดละ 1,000 บาท

     ยังไม่จบครับ มันยังมีเรื่องของระยะเวลาในการแจ้งเคลม ที่อาจทำให้คุณได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียเงินในส่วนนี้ด้วยเหมือนกัน เพราะริ้วรอยต่าง ๆ เจ้าของรถส่วนใหญ่มักจะแจ้งเคลมทีเดียวในวันสุดท้ายก่อนประกันจะหมดอายุ ซึ่งไม่สามารถระบุที่มาได้ชัดเจนและไม่สมเหตุสมผล แต่หากเกิดเหตุปุ๊บ แจ้งเคลมประกันปั๊บ ก็จะมีโอกาสได้ยกเว้นเช่นกันครับ

     หากจะให้มองในมุมดีคือ บริษัทประกันเขาก็อยากให้ผู้ขับระมัดระวังด้วย ไม่ใช่ว่าคุณจ่ายเบี้ยชั้น 1 แล้ว จะขับแบบไหนก็ได้ เพราะสุดท้ายก็ซ่อมให้หมดอยู่ดี แต่ถ้ามองอีกมุมคือ อ้าว! ก็ตูจ่ายชั้น 1 ไปแล้ว ทำไมต้องจ่ายอีกล่ะว้า (ฮา ๆ)

: ซ่อมสีประกันชั้น 1 ทำไมต้องจ่ายเพิ่ม?
: CarMate แอพคู่ใจคนใช้รถ