ทำประกันรถชั้นไหนครอบคลุม “น้ำท่วมรถ” ช่วงนี้ฝนตกเกือบทุกวัน แถมยังตกหนักอีกต่างหาก จนบางทีเกิดน้ำท่วมขัง น้ำท่วมสูง ไม่ว่าจะเป็นทั้งในกรุงเทพหรือต่างจังหวัด ซึ่งสร้างความเสียหายเป็นอย่างมากต่อรถยนต์ที่โดนน้ำท่วม โดยใครหลายคนที่ทำประกันรถยนต์ก็อาจเกิดความสงสัยว่าถ้าน้ำท่วมรถ ประกันรถยนต์จะคุ้มครองอย่างไร หรือมีประกันภัยรถยนต์ประเภทไหนที่คุ้มครองกรณีน้ำท่วมรถบ้าง เราไปหาคำตอบพร้อมกับ CarMate กันเลยค่ะ
น้ำท่วมรถ ประกันรถยนต์คุ้มครองอย่างไร
อย่างที่รู้กันว่ารถยนต์กับน้ำท่วมเป็นเรื่องที่ไม่ถูกกันสักเท่าไร เวลาขับรถลุยน้ำท่วมทีไร มีเหตุให้รถพัง รถเสีย ขับต่อไม่ได้ทุกที ซึ่งต้องขอบอกก่อนว่าประกันรถยนต์ที่คุ้มครองกรณีน้ำท่วมรถนั้น ได้แก่
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1
คุ้มครองน้ำท่วม ไฟไหม้ รถหาย รถชนแบบมีและไม่มีคู่กรณี และเงินชดเชยอุบัติเหตุส่วนบุคคล ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+
คุ้มครองน้ำท่วม ไฟไหม้ รถหาย รถชนกับคู่กรณี และเงินชดเชยอุบัติเหตุส่วนบุคคล ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+ (บางบริษัทประกันภัย)
คุ้มครองน้ำท่วม (บางบริษัท) รถชนกับคู่กรณี และเงินชดเชยอุบัติเหตุส่วนบุคคล ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก
แล้วถ้าเกิดเหตุการณ์รถโดนน้ำท่วมขึ้นมาจริงๆ เราจะสามารถเคลมประกันได้โดยรับการชดเชยค่าสินไหม ซึ่งแบ่งเป็น 2 กรณี คือ
1. กรณีสูญเสียโดยสิ้นเชิง
สำหรับกรณีนี้ ยกตัวอย่างเช่น น้ำท่วมมิดคัน หรือ น้ำท่วมเกินคอนโซลหน้า จนเกิดความเสียหายทั่วทั้งห้องโดยสาร และรถไม่สามารถซ่อมแซมให้ใช้งานได้อีก หรือไม่คุ้มที่จะซ่อม ทางบริษัทประกันจะประเมินค่าชดเชยเป็น 70-80 % ของทุนประกัน ซึ่งผู้เอาประกันควรถ่ายรูปรถให้ชัดเจนเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการเคลมประกัน
2. กรณีเสียหายบางส่วน
แต่ถ้ารถยนต์ถูกน้ำท่วมเพียงบางส่วน เช่น น้ำท่วมมิดล้อ หรือไม่สามารถเบรกได้ปกติหรือรู้สึกว่ารถขับเคลื่อนได้ไม่ดีเหมือนเดิม ทางบริษัทประกันจะประเมินสภาพรถยนต์ว่ายังสามารถซ่อมแซมได้ และก็จะชดเชยค่าเสียหายเฉพาะค่าซ่อมรถที่เกิดขึ้นจริงเท่านั้น เช่น ค่าซ่อมเครื่องยนต์และระบบต่างๆ ห้องโดยสาร ค่าทำความสะอาดพรมพื้นรถ เบาะรถ เป็นต้น
เห็นไหมล่ะว่าการทำประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันรถยนต์ชั้น 2+ และประกันรถยนต์ชั้น 3+ นั้นช่วยคุ้มครองในกรณีน้ำท่วมรถได้ โดยวงเงินความคุ้มครองก็จะแตกต่างกันไป แต่ทางที่ดีมาสิขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีน้ำท่วมขังไว้ก่อนจะดีกว่า ไม่เสี่ยงดีที่สุด แต่ถ้าไม่สามารถเลี่ยงการขับรถลุยน้ำท่วมได้จริงๆ ก็ควรทำประกันรถยนต์ไว้เลยเพื่อความอุ่นใจ
