ประกันภัยรถยนต์ เรียกเก็บค่าเสียหายส่วนแรก คืออะไร Deduct กับ Excess ต่างกันยังไง
ค่าความเสียหายส่วนแรก คือเงินคุณจะต้องควักกระเป๋าจ่ายเองก่อนที่บริษัทประกันจะชดใช้ค่าเสียหายอื่นๆ ให้ตามที่เคลม ในกรณีการเคลมที่คุณเป็นผ่ายผิด หรือคุณไม่สามารถยืนยันได้ว่าตนเองเป็นฝ่ายถูก ซึ่งจุดประสงค์ของการมีค่าเสียหายส่วนแรกก็คือเพื่อให้คนขับมีความระมัดระวังในการขับรถมากขึ้น หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ป้องกันพวกที่คิดว่าทำ ประกันรถชั้น 1 แล้วจะขับรถโดยประมาทยังไงก็ได้ เพราะฉันทำประกันไว้แล้ว โดยค่าเสียหายส่วนแรกที่เราได้ยินกันบ่อยๆ และสร้างความสับสนงงงวยก็มีอยู่ 2 ประเภท ซึ่งก็คือ Deductible และอีกประเภทหนึ่งก็คือ ค่า Excess (บางที่เรียกกันว่าค่า Accept) ซึ่งมีความแตกต่างกัน
ค่า Deductible คืออะไร?
ค่าความเสียหายส่วนแรกภาคสมัครใจของผู้ทำประกันเอง เป็นค่าความเสียหายส่วนแรกที่คนขับสามารถเลือกรับได้ว่าจะจ่ายเท่าไร และจะระบุไว้ในกรมธรรม์ของคนขับเลย โดยเป็นเงินที่คนขับสมัครใจจ่ายให้กับบริษัทประกัน เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาและคุณเป็นฝ่ายผิด โดยประกันรถชั้น 1,2+,3+ มีตัวเลือกให้คนขับสามารถเลือกรับค่า Deductible ได้ เพื่อนำไปเป็นส่วนลดค่าเบี้ยต่อประกันภัยรถยนต์ หากมั่นใจในฝีมือการขับรถของตัวเอง
ค่า Deductible เริ่มต้นที่ 1,000 – 5,000 บาท ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้ทำประกันภัยรถยนต์ โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อการเลือกรับค่า Deductible คือประสบการณ์การขับขี่ของคุณนั่นเอง หากคุณขับรถเก่ง ก็เลือก Deductible สูงสุด 5,000 บาทได้เลย เพราะคุณสามารถเอาไปลดค่าเบี้ยในจำนวนเงินที่เท่ากันได้
เช่น สมมติเบี้ยประกันของคุณปีละ 15,000 บาท แต่ถ้าคุณเลือกรับค่าเสียหายส่วนแรกไว้ที่ 5,000 บาท ค่าเบี้ยของคุณจะลดเหลือเพียง 10,000 บาท แต่หากมีการเคลมเกิดขึ้น คุณก็ต้องจ่ายค่าซ่อมเองก่อน 5,000 บาททุกครั้ง โดยส่วนต่างที่เหลือ บริษัทประกันฯ ก็จะรับผิดชอบให้ทั้งหมดตามทุนประกันของคุณนั่นเอง
จริงๆ แล้ว การเลือกรับค่าเสียหายส่วนแรกเป็นเพียง 1 ในวิธีที่จะช่วยคุณประหยัดค่าเบี้ยประกันรถยนต์ คุณจะเลือกรับ หรือไม่เลือกรับค่าเสียหายส่วนแรกเลยก็ได้ ผู้เชี่ยวชาญด้านประกันของเราจะแนะนำทางเลือกที่ดีที่สุดให้กับคุณ โดยดูจากสไตล์การขับรถ ไลฟ์สไตล์ และงบที่คุณตั้งเอาไว้
ค่า Excess คืออะไร?
สำหรับค่า Excess เป็นค่าความเสียหายภาคบังคับที่จะเกิดขึ้นเฉพาะกับการเคลมประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้น จะเสียในกรณีที่เราไม่สามารถแจ้งให้บริษัทประกันฯ ทราบถึงสาเหตุร่องรอยบนรถนั้นได้ หรือไม่สามารถระบุคู่กรณีได้นั่นเอง
ค่า Excess หรือค่าความเสียหายส่วนแรกที่อยู่ในความรับผิดชอบของผู้ขับขี่ คือ ค่าเสียหายที่เกิดจากความประมาทจากการขับขี่โดยไม่มีคู่กรณี ที่ผู้ขับขี่ต้องรับผิดชอบเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น ในทางประกันถือว่าเป็นความไม่ระมัดระวังในการใช้งาน เริ่มที่ 1,000-2,000 บาท ต่อการเคลมหนึ่งครั้ง เวลารถโดนเฉี่ยวชน หลายคนจึงนิยมรอสะสมรอยขีดข่วนไว้เยอะๆ ก่อน แล้วค่อยเคลมรอบคันทีเดียว เพื่อที่จะได้เสียค่า Excess แค่รอบเดียว
แล้วจะเคลมอย่างไรไม่ให้เสียค่า Excess
เพราะคนส่วนใหญ่ที่ขับรถมานาน มีประสบการณ์ บางคนก็มักจะหัวหมอไม่มากก็น้อย โดยการสร้างเรื่องขึ้นมาหลอกบริษัทประกันฯ ดังนั้นทาง คปภ. หรือสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เลยออกกฎมาว่า “การเคลมที่ไม่ต้องจ่าย ค่า Excess นั้นต้องมาจากการชน ปะทะ แตก หรือมีการบุบให้เห็นได้อย่างชัดเจน ไม่ใช่รอยครูด หรือการเฉี่ยวถลอก”
เพราะฉะนั้น วิธีที่คุณแจ้งเคลมมีผลต่อการจ่ายค่า Excess นี้มากๆ ไม่ว่าจะเคลมสด ซึ่งก็คือการชนแล้วแจ้งเลย ระบุวันเวลาเกิดเหตุชัดเจน หรือเคลมแห้ง ซึ่งก็คือการเก็บสะสมรอยแผลไว้แล้วมาแจ้งเคลมทีเดียวรอบคัน จำให้ขึ้นใจเลยว่า การเคลมทั้งสองแบบนี้ให้ผลต่างกันอย่างมาก ในแง่ของการประกันภัย
ทาง คปภ. ได้มีคำอธิบายเพิ่มอีกว่า “การเคลมรถยนต์กับสิ่งอื่นๆ (ที่ไม่ใช่รถยนต์) เช่น รั้ว กระถาง ต้นไม้ สัตว์ ฯลฯ ที่ทำให้ตัวรถได้รับความเสียหาย ผู้เอาประกันภัยไม่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรก (ค่า Excess) แต่ต้องสามารถแจ้งให้บริษัททราบถึงลักษณะการเกิดเหตุ วัน เวลา และสถานที่ได้อย่างชัดเจน”
ดังนั้นในการเคลมไม่ว่าคู่กรณีเป็นสิ่งมีชีวิตหรือสิ่งไม่มีชีวิต
- ถ้าขับชนเองและระบุคู่กรณีได้ ไม่เสียค่า Excess
- ห้ามบอกว่า “ไม่รู้” ไปโดนอะไรมา เพราะจะทำให้ต้องเสียค่า Excess แน่นอน
- ถ้าขับชนกับรถคันอื่น แต่ ไม่มีหลักฐานหรือไม่ทราบทะเบียนรถคู่กรณี ต้องเสียค่า Excess
- ถ้าขับรถไปชนสิ่งอื่นที่ไม่ใช่รถยนต์จนบุบ เช่น รั้ว กระถาง หรือเสา แบบนี้แค่ระบุลักษณะเกิดเหตุให้ชัดเจน ไม่จำเป็นต้องเสียค่า Excess (ตามที่ คปภ. ระบุไว้)
หลักๆ ก็คือต้องแจ้งลักษณะการเกิดเหตุ และสามารถระบุวัน เวลา สถานที่ได้อย่างชัดเจน เกิดเหตุปุ๊ป แจ้งประกันเพื่อขอเคลมปั๊ป หรือที่หลายคนรู้จักกันดีว่าเป็นการ เคลมสด นั่นเอง
เคลมแบบไหนเสียค่า Excess ชัวร์!
- ขับรถไปเหยียบตะปู หรือของมีคมทำให้ยางแตกหรือระเบิด
- ก้อนหิน วัตถุหรือกิ่งไม้กระเด็นตกใส่รถตอนพายุลมแรง ทำให้เกิดรอยขูด หรือแผลยุบ
- มีรอยขูดขีด ไม่ว่าจะโดนมุ่งร้าย กลั่นแกล้ง หรือขับไปครูดอะไรมาก็ตาม
- ขับตามรถบรรทุกแล้วของหล่นใส่
- สีปลิวจากที่ไหนไม่รู้มาติดรถ
- รถไถลลงข้างทาง
- รถถูกสัตว์กัดแทะหรือขีดข่วน
- กระจกรถแตก
- ความเสียหายที่ไม่สามารถระบุสาเหตุที่ทำให้รถได้รับความเสียหายได้ชัดเจน
- เกิดอุบัติเหตุแบบไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ (ที่ไม่ใช่การชน)
กรณีประมาณนี้ เราจะต้องเสีย Excess ประมาณ 1,000 บาท / ครั้งที่เคลม
สิ่งสำคัญที่คนผู้ขับรถทุกคนพึงกระทำคืออ่านกรมธรรม์ฯ ให้ละเอียด แล้วศึกษาเงื่อนไขค่า Excess หรือค่าเสียหายส่วนแรกให้ชัดเจน เช่นเดียวกับการเลือกความคุ้มครองจาก ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 กับบริษัทประกันฯ ที่น่าเชื่อถือในราคาที่ใช่ เคลมง่าย และเหมาะกับคุณที่สุด
: ประกันภัยรถยนต์ เรียกเก็บค่าเสียหายส่วนแรก